เที่ยวบึงกาฬ

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตั้งอยู่บ้านดอนจิก เลยอำเภอบุ่งคล้า 3 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีเนื้อที่ประมาณ 186 ตารางกิโลเมตร

น้ำตกถ้ำฝุ่น ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ

น้ำตกถ้ำฝุ่น อยู่ในบริเวณท้องที่บ้านภูสวาท ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบึงกาฬ ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 33 กิโลเมตร และจากจังหวัดประมาณ 169 กิโลเมตร ธรรมชาติโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่งที่มีทิวทัศน์สวยงามหลายแห่งอยู่ทางตอนเหนือของภู และบริเวณใกล้เคียงกันนั้นมีถ้ำฝุ่น ซึ่งเป็นถ้ำธรรมชาติร่มเย็นอีกแห่งหนึ่ง

จุดชมวิวภูวัวเหนือถ้ำพราย ตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือสุดของประเทศ ซึ่งกรมป่าไม้ทำการสำรวจเบื้องต้นป่าภูวัว และพบว่าป่าแห่งนี้เป็นแหล่งต้นน้ำ ลำธารที่สำคัญ สภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์ และมีสัตว์ป่าชุกชุม จึงมีการจัดตั้งให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว มีพื้นที่ครอบคลุมตำบลหนองเดิ่น ตำบลบุ่งคล้า ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า ตำบลบ้านต้อง ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา ตำบลชัยพร อำเภอบึงกาฬ และตำบลท่าดอกคำ อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคายรวมมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 124,662 ไร่หรือประมาณ 199 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีแหล่งท่องเทียวที่น่าสนใจหลายแห่ง โดยเฉพาะจุดชมวิวภูวัวเหนือถ้ำพราย

น้ำตกตาดวิมานทิพย์ (อุทยานแห่งชาติภูลังกา) ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

น้ำตกสูงใหญ่ มองเห็นได้แต่ไกล มีความกว้างประมาณ 100 – 150 เมตร สูงประมาณ 70 เมตร มีทั้งหมด 7 ชั้น ลักษณะของน้ำตกที่ไหลลงมาจากภูเขาสัมผัสชั้นหินตลอดทาง เป็นน้ำตกที่จะมีน้ำเฉพาะหลังจากฝนตกอย่างต่อเนื่องเท่านั้น เพราะน้ำตกนี้เป็นสายน้ำที่ไหลลงมาจากบนภูเขาหินทราย ซึ่งไม่มีที่กักเก็บน้ำให้น้ำตกไหลตลอดได้ การจะไปเที่ยวควรโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนไปล่วงหน้า 1 วัน การเดินทางต้องใช้ความระมัดระวังเพราะทางเดินมีตะไคร่น้ำ การเข้าถึงยังค่อนข้างลำบากเนื่องจากยังไม่ได้รับการพัฒนาเส้นทางจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง น้ำตกตาดวิมานทิพย์เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำตกได้ เดินชมธรรมชาติบริเวณรอบๆ น้ำตก สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพน้ำตกและธรรมชาติที่สวยงามแนะนำว่าต้องมาที่น้ำตกตาดวิมานทิพย์แห่งนี้

หินสามวาฬ ตำบลบึงกาฬ อำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

หินสามวาฬ (Three Rock Whale) ว่ากันว่ามีอายุกว่า 75 ล้านปี ลักษณะเป็นก้อนหินขนาดมหึมาวางเรียงกัน 3 ก้อน มองไกลๆ หรือมองจากภาพถ่ายทางอากาศ มีรูปร่างคล้ายวาฬ พ่อ แม่ ลูก กำลังว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน จึงเรียกกันว่า”หินสามวาฬ” เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น อยู่ด้านตะวันออกของภูสิงห์ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า สามารถยืนชมทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก หาดทรายแม่น้ำโขง และภูเขาเมืองปากกระดิ่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเราสามารถเดินขึ้นไปยืนบนหินวาฬได้

หินหัวช้าง ตำบลโคกก่อง อำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

หินหัวช้าง ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของภูสิงห์ ลักษณะก้อนหินมองไกลคล้ายหัวช้าง หากยืนบนหัวช้างจะเห็นโขดหินเรียงรายด้านข้าง ดูแปลกตาเป็นมุมโค้งริมหน้าผาคล้าย “แกรนด์แคนยอน” จุดนี้สามารถมองเห็นพื้นที่สวนยางพาราเป็นบริเวณกว้าง

น้ำตกเจ็ดสี ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ

น้ำตกเจ็ดสี เดิมเรียกว่า น้ำตกห้วยกะอามซึ่งเกิดจากธารน้ำของห้วยกะอาม น้ำตกจากหน้าผาสูงแล้วเกิดเป็นละอองไอน้ำกระทบกับแสงแดดยามบ่ายทำให้เกิดสีต่าง ๆ ขึ้นจึงเรียกน้ำตกเจ็ดสี มีทั้งหมด 3 ชั้น

อุทยานแห่งชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ

ตั้งอยู่ในพื้นที่ บ้านดอนจิก เลยจากอำเภอบุ่งคล้าไปประมาณ 3 กิโลเมตรและเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีเนื้อที่ประมาณ 186 ตารางกิโลเมตร หรือ 116,562 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอบึงกาฬ อำเภอบุ่งคล้า อำเภอเซกา และอำเภอบึงโขงหลง เกือบติดพรมแดนประเทศลาว สามารถชมทิวทัศน์ป่าได้โดยรอบเห็นได้ไกลถึงป่าในฝั่งลาว เช่น ภูควาย ภูงู ภูหมาก่าวของลาวได้ชัดเจน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 150-300 เมตร สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น บางส่วนเป็นสันเขาหินทราย ลานหินและทุ่งหญ้า อุทยานฯ แห่งนี้ยังคงความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของระบบนิเวศน์วิทยาเอาไว้ ดังจะเห็นได้จากสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ที่ยังอาศัยอยู่ เช่น ช้าง เสือโคร่ง เสือดาว หมี ชะมด ไก่ฟ้า ไก่ป่า ลิง ชะนี และนกนานาชนิด

บึงโขงหลง ตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

ทะเลสาบธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก โดยเฉพาะนกน้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว ทั้งห่านป่า นกเป็ดน้ำ นกยาง นกกระเต็น มีจุดดูนกอยู่ที่ดอนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง บริเวณบึงยังมีหาดคำสมบูรณ์ ที่มีหาดทรายสวยงามในช่วงฤดูหนาว เป็นแหล่งพักผ่อน และชมทิวทัศน์ มองเห็นภูลังกาเป็นฉากหลัง

หาดสีดา ตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ

ป็นหาดทรายขาวสะอาด สวยงาม มีความยาวตามริมฝั่งแม่น้ำโขงยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร เหมาะที่จะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีทิวทัศนัสวยงาม โดยที่กลางลำน้ำโขงตรงข้ามกับหาดทรายจะมีแนวโขลดหินเป็นแนวยาวที่ทำให้แม่น้ำโขงตามแนวโขลดหินดังกล่าว ไหลเชี่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีทิวเขาภูงูของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่ทอดยาวไปตามลำน้ำโขง นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามแล้ว หาดสีดายังเป็นสถานที่ซึ่งประชาชนชาวอำเภอบุ่งคล้า จัดให้เป็นแหล่งอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมของชาวไทยไว้ คือ งานประเพณีสงกรานต์ของอำเภอบุ่งคล้า ซึ่งจัดทุก ๆ ปี ในระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน โดยจัดให้มีพิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุและบุคคลที่สำคัญของอำเภอ ทำให้หาดสีดาเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวอำเภอบุ่งคล้าเป็นอย่างยิ่ง

หาดคำสมบูรณ์ ตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

หาดคำสมบูรณ์อยู่ในบึงโขงหลง เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก โดยเฉพาะนกน้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว ทั้งห่านป่า นกเป็ดน้ำ นกยาง นกกระเต็น มีจุดดูนกอยู่ดอนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง

น้ำตกเจ็ดสี ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ

น้ำตกเจ็ดสี ตั้งอยู่บ้านดอนเสียด ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา น้ำตกเจ็ดสีเป็นน้ำตกที่สวยงามมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เกิดจากธารน้ำของห้วยกะอามไหลมาตามหน้าผาหินทรายสูงและแผ่กว้างเป็นทางยาว สายน้ำตกกระทบหินเบื้องล่างเกิดเป็นละอองน้ำ เมื่อกระทบกับแสงแดดทำให้เกิดสีต่างๆ ขึ้น จึงเรียกว่า น้ำตกเจ็ดสี

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว (น้ำตกตาดนกเขียน) ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ

เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ มี 3 ชั้น จะสวยงามมากในฤดูฝนเพราะมีน้ำมาก การเดินทางเข้าถึงโดยรถยนต์ค่อนข้างสะดวก และเดินเท้าต่ออีกเพียงเล็กน้อยก็ถึงตัวน้ำตกชั้นแรก (http://travel2guide.com)

แก่งอาฮง ตำบลไคสี อำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

“แก่งอาฮง หรือจุดชม “สะดือแม่น้ำโขง” ณ วัดอาฮงศิลาวาส ตำบลหอคำ เขตอำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ห่างจากตัวจังหวัด 21 กิโลเมตร ถือว่าเป็นจุดที่แม่น้ำโขงมีความลึกที่สุดไม่สามารถลงไปวัดความลึกได้ กระแสน้ำไหลเชี่ยวมากในฤดูน้ำหลาก และมีกระแสน้ำไหลวนเป็นรูปกรวยขนาดใหญ่ สังเกตได้จากเมื่อมีวัสดุหรือซากไม้ขนาดใหญ่ลอยมาเมื่อถึงบริเวณนี้ สิ่งของต่างๆ จะหมุนวนอยู่ประมาณ 30 นาที จึงจะไหลต่อไป ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็น “สะดือแม่น้ำโขง” มีความกว้างประมาณ 300 เมตร คนเฒ่าคนแก่เคยวัดความลึกโดยใช้เชือกผูกกับก้อนหินหย่อนลงไป วัดได้ 98 วา ส่วนทางวิทยาศาสตร์ได้คำนวณวัดช่วงที่ลึกที่สุดประมาณ 200 เมตร (travel.mthai.com)”

น้ำตกชะแนน ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ

อยู่ในความรับผิดชอบของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เดิมชื่อ “น้ำตกตาดสะแนน” (ภาษาอีสาน ตาด แปลว่า ที่ซึ่งมีน้ำไหล สะแนน แปลว่า เตียงนอน) น้ำตกตาดชะแนนเกิดจากลำห้วยชะแนนไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ 2 ชั้น เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว การเดินทางเข้าถึงได้ยาก สามารถเดินทางเข้าน้ำตกตาดชะแนนได้ 2 ทาง โดยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อและทางเรือ นอกจากความสวยงามของน้ำตกแล้ว ยังมีสะพานหิน (อยู่ก่อนถึงทางเดินเท้าสู่น้ำตก) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น้ำลอดหายไปใต้แนวหินที่มีความยาวประมาณ 100 เมตร อีกทั้งยังมีบึงจระเข้ เป็นบึงขนาดใหญ่ตั้งอยู่เหนือน้ำตก และเมื่อเดินตัดน้ำตกขึ้นไปอีกประมาณ 300 เมตร มีหาดทรายกว้างริมบึงเหมาะเป็นพื้นที่กางเต้นท์พักแรม

วัดถ้ำบูชา ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ

“เป็นวัดที่พระอาจารย์ทองคำ กาญจนวัณโณมาจำพรรษาที่วัดถ้ำบูชา ตั้งแต่ปี 2520 เป็นต้นมา พระอาจารย์ทองคำ เป็นพระป่ากรรมฐาน ที่ยังคงรักษาข้อวัตรปฏิบัติของวัดป่า อย่างเคร่งครัด ไม่สะสมปัจจัย ไม่เรี่ยไร ไม่มุ่งเน้นลาภสักการะมากกว่าธรรม ในโอกาสสำคัญๆ ท่านจะพาพระเณรและญาติโยม สวดมนต์ นั่งสมาธิ เจริญจิตตภาวนาตลอดรุ่ง อยู่เสมอ โดยท่านจะเมตตานั่งเป็นประธานให้จนถึงเช้าด้วย”

หนองกุดทิง ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

หนองกุดทิง หนองน้ำขนาดใหญ่ของอำเภอบึงกาฬ เป็นแหล่งน้ำสำคัญและมีความสวยงาม ที่ได้รับการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำจากกรมทรัพยากรน้ำ เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ประกอบด้วยสัตว์น้ำกว่า 250 สายพันธุ์ ปลาที่เป็นเอกลักษณ์ไม่มีที่ใดในโลก 20 สายพันธุ์ พืชน้ำกว่า 200 ชนิด นกพันธุ์ต่างๆ กว่า 40 ชนิด หนองกุดทิงจึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คน เนื่องจากความสงบร่มเย็นของสถานที่อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชมนกในตอนเช้าและตอนเย็น กิจกรรมล่องเรือตกปลา และยังสามารถสัมผัสกับวิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้านบริเวณริมหนองน้ำไปพร้อมกับการพักผ่อนได้อีกด้วย

อุทยานแห่งชาติภูลังกา ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม

อุทยานแห่งชาติภูลังกา อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูลังกา ท้องที่อำเภอบ้านแพง อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงเซกา ป่าดงสีชมพู ป่าภูทอกใหญ่ ภูวัว ป่าดงซำบอนเซกา ในท้องที่อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ มีพื้นที่ทั้งสิ้น ๕๐ ตารางกิโลเมตร หรือ ๓๑,๒๕๐ ไร่ โดยกรมป่าไม้ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามคำสั่งที่ ๕๕/๒๕๒๗ ลงวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๒๗ ต่อมากองอุทยานแห่งชาติได้พิจารณาเห็นว่า ป่าภูลังกาเป็นป่าที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง ๓๑,๒๕๐ ไร่ มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งพันธุ์พืชและสัตว์ป่า และยังเป็นป่าต้นน้ำลำธารที่ให้กำเนิดลำห้วยหลายสาย มีจุดเด่นทางธรรมชาติ เช่น หน้าผา ถ้ำ น้ำตก อยู่หลายแห่งที่สมควรสงวนรักษาไว้ กรมป่าไม้จึงได้แต่งตั้งนายสมศักดิ์ อภิชาติมานนท์ เจ้าพนักงานป่าไม้ ๕ ตามคำสั่งที่ ๑๕๖๙/๒๕๓๒ ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๓๒ ออกไปสำรวจบริเวณป่าภูลังกาเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการจัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ตามนัยมาตรา ๖ พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๔ โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๓ และกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๒

น้ำตกชะแนน ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ

น้ำตกชะแนน อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เดิมชื่อ “น้ำตกตาดสะแนน” (ภาษาอีสาน ตาด แปลว่า ที่ซึ่งมีน้ำไหล สะแนน แปลว่า เตียงนอน) น้ำตกตาดชะแนนเกิดจากลำห้วยชะแนนไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ เป็นน้ำตกใหญ่และสวยงามที่สุดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว การเดินทางเข้าถึงได้ยาก สามารถเดินทางเข้าน้ำตกตาดชะแนนได้ 2 ทาง โดยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และทางเรือ นอกจากความสวยงามของน้ำตกแล้ว ยังมีสะพานหิน (อยู่ก่อนถึงทางเดินเท้าสู่น้ำตก) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น้ำลอดหายไปใต้แนวหินที่มีความยาวประมาณ 100 เมตร อีกทั้งยังมีบึงจระเข้ เป็นบึงขนาดใหญ่ตั้งอยู่เหนือน้ำตก และเมื่อเดินตัดน้ำตกขึ้นไปอีกประมาณ 300 เมตร มีหาดทรายกว้างริมบึงเหมาะเป็นพื้นที่กางเต็นท์พักแรม

หนองกุดทิง ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ

แหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งบึงกาฬที่ยังความเป็นธรรมชาติไว้อย่างแท้จริง ด้วยมีพื้นที่เชื่อมต่อแม่น้ำโขง ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีความความหลากหลายทางชีวภาพจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญระดับโลก (พื้นที่แรมซาร์) แห่งที่ 11 ของประเทศไทย หนองกุดทิง มีพื้นที่ราว 22,000 ไร่ มีสัตว์น้ำอาศัยอยูมากกว่า 250 สายพันธุ์ มีปลาที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลกถึง 20 สายพันธ์ มีนกพันธุ์ต่างๆ กว่า 40 ชนิด เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน ชื่นชมธรรมชาติในวันสบายๆ

น้ำตกถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ

น้ำตกถ้ำพระ ตั้งอยู่บริเวณบ้านโนนสมบูรณ์ อยู่ห่างจากอำเภอเซกา ประมาณ 34 กิโลเมตร บริเวณน้ำตกจะเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ภูถ้ำพระ ซึ่งเงียบสงบและร่มรื่น เมื่อเดินขึ้นมาบนลานหินด้านหลัง จะพบหุบเขารูปแอ่งกระทะขนาดกว้างประมาณ 200 ตารางเมตร มีสายธารน้ำตกไหลมายังก้นอ่างที่เบื้องล่าง บริเวณน้ำตกเป็นผากว้างราว100 เมตร สามารถลงเล่นได้เฉพาะในฤดูฝน น้ำตกภูถ้ำพระเกิดจากลำธารห้วยบังบาด มีความสูงระหว่างชั้นประมาณ50 เมตร

น้ำตกถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ

น้ำตกถ้ำพระ ตั้งอยู่บริเวณบ้านโนนสมบูรณ์ อยู่ห่างจากอำเภอเซกา ประมาณ 34 กิโลเมตร บริเวณน้ำตกจะเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ภูถ้ำพระ ซึ่งเงียบสงบและร่มรื่น เมื่อเดินขึ้นมาบนลานหินด้านหลัง จะพบหุบเขารูปแอ่งกระทะขนาดกว้างประมาณ 200 ตารางเมตร มีสายธารน้ำตกไหลมายังก้นอ่างที่เบื้องล่าง บริเวณน้ำตกเป็นผากว้างราว100 เมตร สามารถลงเล่นได้เฉพาะในฤดูฝน น้ำตกภูถ้ำพระเกิดจากลำธารห้วยบังบาด มีความสูงระหว่างชั้นประมาณ50 เมตร

วัดถ้ำจันทร์ ตำบลศรีชมภู อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ

วัดถ้ำจันทร์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2442 ตามประวัติ กล่าวว่า มีพระธุดงค์รูปหนึ่ง ได้เดินทางมาธุดงค์อยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ ระหว่างที่หยุดที่ถ้ำได้เห็นสิ่งต่างๆ โดยรอบที่เต็มไปด้วยไม้นานาพันธุ์ แต่สิ่งที่ประจักษ์แก่ใจที่สุด คือ “ไม้จันทร์” จึงขนานนามว่า “วัดถ้ำจันทร์” ซึ่งภายหลังทราบนามว่า พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ที่เป็นผู้ก่อตั้งวัดภูทอก ของจังหวัดบึงกาฬ โดยเริ่มแรกพระอาจารย์จวน ได้อาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ ต่อมาท่านคิดว่าสถานที่นี้ไม่เหมาะ จึงได้ย้ายไปพำนักที่วัดภูทอกในปัจจุบัน ภายหลังจึงได้พระหลายๆ รุ่น ได้ผลัดเปลี่ยนกันมาที่วัดถ้ำจันทร์แห่งนี้ โดยจุดเด่น คือ โบสถ์ที่สวยงามตั้งอยู่บนภูเขาหินสูงล้อมรอบด้วยป่าไม้ สามารถชมวิวธรรมชาติและอ่างน้ำด้านล่าง นอกจากนี้ ยังมีถ้ำอื่นๆ ให้ได้ชม เช่น ถ้ำฤาษี ถ้ำค้างคาว เป็นต้น

ภูทอก (วัดเจติยาคีรีวิหาร หรือวัดภูทอก) ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ

ภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จ.บึงกาฬ ภูทอกมี 2 ลูกคือ ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย ส่วนที่นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถชมได้คือภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไป ยังไม่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวไปชมได้ตามปกติ ในอดีตอาณาบริเวณนี้เคยเป็นป่าทึบ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย ต่อมาพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ได้เริ่มเข้ามาจัดตั้งเป็นแหล่งบำเพ็ญเพียร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรม เนื่องจากเป็นสถานที่เงียบสงบ เหมาะแก่การบำเพ็ญสมณะธรรมของภิกษุ-สามเณรและพุทธศาสนิกชนทั่วไป ในเวลาต่อมา ก่อนที่พระอาจารย์จวนจะละสังขาร ได้เล็งเห็นการณ์ไกลที่จะช่วยเหลือชาวบ้านแถวนี้ให้มีรายได้อย่างยั่งยืนและถาวร เป็นการตอบแทนบุญคุณญาติโยมที่มีอุปการะ จึงได้ริเริ่มจัดสร้างสะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบๆ ภูทอก เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธรักษ์ คือการท่องเที่ยวในเชิงการแสวงบุญหรือธรรมจาริก นักท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์จากการเที่ยวชมธรรมชาติ ขุนเขาลำเนาไพร และได้ศึกษาพุทธศาสนา ส่วนชาวบ้านจะได้ประโยชน์จากการจำหน่ายสินค้าและธุรกิจร้านอาหาร

น้ำตกถ้ำฝุ่น ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ

น้ำตกถ้ำฝุ่น อยู่ทางตอนเหนือของภูวัว บริเวณบ้านภูสวาท ตำบลหนองเดิ่น ตามทางหลวงหมายเลข 212 ก่อนถึงอำเภอบุ่งคล้า 7 กิโลเมตร มีทางแยกขวาไปน้ำตกประมาณ 4 กิโลเมตร รอบ ๆ เป็นป่าโปร่งมีทิวทัศน์สวยงาม ทางเดินไปน้ำตกผ่านลานหินทรายกว้างขวาง จนมาสุดทางที่น้ำตกที่ไหลมาจากหน้าผาหินทรายมีลักษณะเป็นร่องแคบ มองเห็นสายน้ำตกมาเป็นทางยาว มีน้ำเฉพาะในฤดูฝน

น้ำตกถ้ำฝุ่น ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ

น้ำตกถ้ำฝุ่น อยู่ในบริเวณท้องที่บ้านภูสวาท ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบึงกาฬ ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 33 กิโลเมตร และจากจังหวัดประมาณ 169 กิโลเมตร ธรรมชาติโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่งที่มีทิวทัศน์สวยงามหลายแห่งอยู่ทางตอนเหนือของภู และบริเวณใกล้เคียงกันนั้นมีถ้ำฝุ่น ซึ่งเป็นถ้ำธรรมชาติร่มเย็นอีกแห่งหนึ่ง